Categories
รายงานพิเศษ สอบท้องถิ่น 2563-2564

สอบท้องถิ่น 2558 บัดนี้ –  ความคืบหน้าการสอบท้องถิ่น รอบ 2

“สอบท้องถิ่น 2558”

ลิงค์: https://iqepi.com/25954/ หรือ
เรื่อง: ความคืบหน้าการสอบท้องถิ่น รอบ 2
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**


จากกรณีที่มีการเปิดเผยวาระการประชุมโดยท่านปลัดศักดิพงศ์ ธรรมอาชวกุล เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการจัดสอบท้องถิ่น รอบ 2 ในปี 2558 หากติดตามข่าวก็คงไม่แปลกใจว่าบัญชียังไม่ถึง 2 ปี จัดสอบใหม่อีก หรือทำไมจึงเรียกว่ารอบ 2 ขออธิบายสักนิดเพื่อให้ท่านที่เพิ่งติดตามได้ทราบ

อดีต..การสอบท้องถิ่น 2557

เนื่องจากเดิมที่เปิดรับสมัครไปเมื่อปี 2557 ที่เป็นการสอบท้องถิ่นครั้งประวัติศาสตร์ที่นอกจากจะมีจำนวนผู้สมัครและเข้าสอบจำนวนมาก กว่าจะได้เข้าสอบก็ผิดแผกไปจากภาพการเข้าสอบแบบเดิมๆ เช่น ใส่เสื้อยืด กางเกงวอร์ม ไม่สวมรองเท้า นั่นก็คงไม่ทำให้แปลกใจมากไปกว่าจำนวนผู้สมัครสอบ 280,625 คน มีผู้ที่สอบผ่านเพียงเกือบๆ 8,750 คนเท่านั้น ยังไม่นับกระบวนการกว่าจะได้สอบที่ยาวข้ามปีเห็นมหากาพย์ สำรวจอัตราว่างกันหลายรอบ บาง อปท.ให้ กสถ. ดำเนินการจัดสอบแทนแล้วก็เกิดเปลี่ยนใจ จัดสอบเอง ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้วสามารถทำได้ จนบัญชีสำรวจอัตราว่างที่ส่งให้ กสถ. ไม่นิ่ง จึงต้องมีการบังคับว่าหากส่งแล้วห้ามแก้ไขเพื่อไปจัดสอบเอง

โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการออกข้อสอบและประมวลผลสอบท้องถิ่นในครั้งนั้น หลังจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่สามารถดำเนินการในกระบวนการดังกล่าวได้เนื่องจากเงื่อนไขเกี่ยวกับสถานที่สอบ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงต้องการให้จัดสอบที่ส่วนกลางเพื่อให้สามารถควบคุมป้องกันการทุจริตในการสอบได้อย่างเต็มที่ คงเป็นความกังวลความปลอดภัยของข้อสอบระหว่างการเดินทางไปยังศูนย์สอบจังหวัดต่างๆ แต่เมื่อมติที่ประชุมยืนยันว่าต้องการจัดสอบแบบแบ่งศูนย์แบ่งเขต จึงทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตดำเนินการออกข้อสอบและประมวลผลการสอบแทนมหาวิทยาลัยรามคำแหง

หลังจากการสอบเสร็จสิ้น และ กสถ. ประกาผลสอบก็ทำให้หลายคนไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าสอบหรือผู้ที่เกี่ยวข้องค่อนข้างแปลกใจว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้สอบท้องถิ่นเมื่อปี 2557 ผู้เข้าสอบท้องถิ่นสอบตกกันระนาวขนาดนั้น จึงได้ลองสอบถามหลายๆ ท่านที่ได้เข้าสอบในครั้งนั้นผ่านทางเฟสบุ๊ค (ลิงค์) หลายท่านก็บอกว่าข้อสอบหลุด..โผ!! ก็คือบางตำแหน่งข้อสอบออกนอกเหนือจากหลักสูตรการสอบที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัครสอบ แต่หากดูตามหัวข้อแล้วการจะออกข้อสอบที่หลุดไปจากประกาศน่าจะอยู่ในหัวข้อสุดท้ายที่ว่า “ความรู้ที่เกี่ยวกับงานตาม “ลักษณะงานที่ปฏิบัติ” ของตำแหน่งที่สมัครสอบ” ซึ่งในส่วนนี้จะกว้างมากต้องไปแกะเอาเองจากมาตรฐานกำหนดตำแหน่งของแต่ละตำแหน่ง

เมื่อมีผู้สอบผ่านจำนวนน้อย หลายตำแหน่งมีผู้ที่ขึ้นบัญชีสอบผ่านไม่เพียงพอกับอัตราว่าง ลองสรุปบัญชีแต่ละภาค/เขต เห็นว่าไม่ว่าจะใช้บัญชีข้ามจังหวัด ข้ามเขต จนถึงข้ามภาค และใช้บัญชีที่มีลักษณะหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวข้องเกื้อกูลกัน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะบรรจุอยู่ดี หลังจากนั้น กสถ. ก็มิได้รอช้าสั่งการให้ อปท.สำรวจอัตราว่างใหม่ทันที เพื่อเตรียมจัดสอบรอบ 2 แต่สืบเนื่องจากตามหลักเกณฑ์แล้ว อปท. น้อยใหญ่ทั่วประเทศสามารถจัดสอบเองได้ จึงได้มี อปท.หลายแห่งจัดสอบเอง โดยไม่ยอมใช้บัญชีกลางที่ กสถ. เป็นผู้จัดสอบ จนมีเรื่องมีราวการทุจริตในการสอบกันครึกโครมจนถึงกับยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านที่ อปท.ที่มีปัญหาดังกล่าวดำเนินการจัดสอบเองหลังมีการสอบสวนโดย ป.ป.ช. แต่หลาย อปท.ที่มีการดำเนินการขอจัดสอบเองไปก่อนหน้าที่จะมีประกาศขอความร่วมมือให้ อปท. ต่างๆ ใช้บัญชีกลาง ไม่ว่าจะเป็นการขอใช้บัญชีข้ามจังหวัด ข้ามเขต จนถึงข้ามภาค และท้ายสุดคือการใช้บัญชีตำแหน่งที่มีลักษณะหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวข้องเกื้อกูลกัน และให้ชะลอการดำเนินการจัดสอบเอง จนกว่าจะประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลือกโดยการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นใหม่ เนื่องจากมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมเกี่ยวกับการดำเนินการจัดสอบโดย อปท. บางแห่งมีการดำเนินการจัดสอบที่ไม่โปร่งใส จนท้ายสุดหลายแห่งแม้จะประกาศรับสมัครสอบไปแล้วก็ต้องถูกระงับการดำเนินการจัดสอบก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ

ปัจจุบัน..ความคืบหน้าการสอบท้องถิ่น 2558

นั่นคืออดีต..มาถึงปัจจุบัน จากวาระการประชุมที่ข้อเสนอต่างๆ จะได้คำตอบในวันที่ 29 มกราคม 2558 เกี่ยวกับการดำเนินการสอบท้องถิ่น รอบ 2 ประจำปี 2558

ตำแหน่งและอัตราว่าง ที่ กสถ. จะดำเนินการจัดสอบแทน

หลังจากที่ทาง กสถ. ได้ให้ อปท. สำรวจตำแหน่งและอัตราว่างที่ประสงค์จะให้ กสถ.ดำเนินการจัดสอบแทน ตั้งแต่ปี 2557 สรุปอัตราว่างที่จะดำเนินการจัดสอบ จากเดิมทั่วประเทศ 116 ตำแหน่ง 4,069 อัตรา แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่จะได้กล่าวต่อไป สรุปตามข้อเสนอเหลือเพียง 30 ตำแหน่ง 2,598 อัตรา ดังนี้

  • สายงานเริ่มต้นจากระดับ 2 จำนวน 7 ตำแหน่ง รวม 1,284 อัตรา
  • สายงานเริ่มต้นจากระดับ 3 จำนวน 23 ตำแหน่ง รวม 1,314 อัตรา

สาเหตุที่ทำให้จำนวนตำแหน่งและอัตราว่างลดลงไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้มีข้อเสนอให้ตำแหน่งที่มีอัตราว่างของทุกภาคและทุกเขตรวมกันแล้วไม่เกิน 10 อัตราให้ดำเนินการสรรหาด้วยวิธีการรับโอน การสอบคัดเลือกเปลี่ยนสายงาน หรือการขอใช้บัญชีกลางตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข

สิ่งที่น่าสนใจอีกประการ “สายงานเริ่มต้นจากระดับ 1” หายไป!! สาเหตุก็มาจากมติที่ประชุมเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2557 ได้เห็นชอบให้กำหนดบทเฉพาะกาลการใช้บังคับระบบจำแนกตำแหน่งที่ปรับปรุงใหม่ (ระบบแท่ง) เป็นระยะเวลา 1 ปี ได้มีการยุบตำแหน่งสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 1 รวมเข้ากับตำแหน่งสายงานเริ่มต้นจากระดับ 2 และตำแหน่งสายงานเริ่มต้นจากระดับ 2 บางตำแหน่งรวมเข้ากับตำแหน่งที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกันในระดับเดียวกัน เช่น ตำแหน่งเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ 2 รวมกับ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี 2

  Youtube: iqepin LINE it! เพิ่มเพื่อน  

มหาวิทยาลัยที่จะออกข้อสอบ

การประชุมในวันที่ 29 มกราคม 2558 ที่จะถึงนี้ จะได้มีการเสนอรายชื่อมหาวิทยาลัยของรัฐที่จะเป็นผู้รับผิดชอบการสอบแข่งขัน เพื่อดำเนินการทำข้อตกลงและจ้างดำเนินการสอบแข่งขันในครั้งนี้ แทนมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตผู้รับผิดชอบการสอบท้องถิ่นปี 2557 ที่สิ้นสุดการจ้างฯ ภายหลังการสอบเสร็จสิ้น

รับผลสอบภาค ก. ที่จัดสอบโดยสำนักงาน ก.พ. (ภาค ก. ก.พ.)

โดยปกติแล้วการจัดสอบท้องถิ่น ครู ทหาร ตำรวจ กทม. หรือองค์กรอิสระ จะไม่รับผลคะแนนภาค ก. ของ ก.พ. กล่าวคือจะผู้ที่สมัครสอบจะต้องสอบภาค ก. ใหม่ แต่ก็มีบางหน่วยงานที่รับผลคะแนนการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นศาลยุติธรรม ในทางกลับกันบางหน่วยงานที่รับสมัครสอบเป็นข้าราชการพลเรือนแต่ไม่รับผลคะแนนภาค ก. ก.พ. แต่จัดสอบภาค ก. เอง ก็มี เช่น กระทรวงการต่างประเทศ เอ่ยมาถึงตรงนี้น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่าเหตุผลใดที่จะเป็นเงื่อนไขให้ส่วนราชการต่างๆ รับหรือไม่รับผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. ไม่มีอะไรซับซ้อนมีเหตุผลเพียงสองประการที่ส่วนราชการต่างๆ จะพิจารณารับหรือไม่รับผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. คือ

1. หลักสูตรการสอบ ภาค ก. ที่แตกต่างกัน

การสอบภาค ก. ก.พ. ในปัจจุบันจะมีการสอบวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มเข้ามาจากเดิมที่มีเพียงวิชาความสามารถทั่วไปและวิชาภาษาไทยเท่านั้น ตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (2557) และหากมีผลคะแนนการทดสอบภาษาอังกฤษจากสถาบันที่ ก.พ. กำหนด เช่น TOEIC, TOEFL, TU-GET, CU-TEP ก็สามารถยื่นผลคะแนนแทนการสอบวิชาภาษาอังกฤษ กํบ ก.พ. ได้

ซึ่งโดยปกติส่วนราชการที่รับผลการสอบภาค ก. ก.พ. มักจะนำส่วนของ กฎหมาย กฎระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับส่วนราชการที่รับสมัครสอบไปไว้ในส่วนของภาค ข. แตกต่างกับการสอบท้องถิ่น หรือส่วนราชการอื่นๆ ที่ไม่รับผลผ่านภาค ก. ก.พ.

การสอบท้องถิ่นครั้งที่ผ่านมาตามมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลือกโดยการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2555 ไม่มีวิชาภาษาอังกฤษแล้วยังมีวิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการใน อปท. ถึง 50 คะแนน นอกเหนือจากวิชาความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์และสรุปเหตุผล และวิชาภาษาไทย วิชาละ 25 คะแนน เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่า “วิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการใน อปท.” มีสัดส่วนคะแนนถึง 50% ของคะแนนทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วย พ.ร.บ.เทศบาล, พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล,พรบ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด,พรบ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา,พรบ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, พรบ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น, ฯลฯ  และทำให้การสอบท้องถิ่นเฉพาะวิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการใน อปท. ที่อยู่ในส่วนของภาค ก. ท้องถิ่น จึงไปซ้ำกับหลักสูตรการสอบภาค ข. บางตำแหน่ง เช่นตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ ที่ต้องสอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 ซึ่งรวมอยู่ในส่วนของวิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการใน อปท. ของภาค ก. แล้วยังต้องสอบวิชาเดิมอีกในหัวข้อเดียวกับสำหรับการสอบภาค ข.

2. เกณฑ์การตัดสิน เมื่อภาค ก. ก.พ.ไม่มีคะแนน มีเพียง “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน”

กรณีส่วนราชการใดรับผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. เพื่อจัดลำดับขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้บรรจุฯ จะมีลักษณะการกำหนดเกณฑ์การตัดสินโดยจะไม่นำคะแนนในส่วนของภาค ก. มาร่วมในการคำนวณเพื่อจัดลำดับ จะเอาเพียงแค่ผ่านหรือไม่ผ่านเท่านั้น เช่น จะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 60% สำหรับวิชาความสามารถทั่วไปและวิชาภาษาไทย และจะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 50% เฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ ในระดับปริญญาตรี หากเป็นระดับปริญญาโทก็จะเพิ่มเกณฑ์การตัดผ่านขึ้นอีกเล็กน้อย  โดยกระบวนการนี้จะเป็นส่วนที่ทางสำนักงาน ก.พ. เป็นผู้ดำเนินการประมวลผลคะแนน แล้วออกเป็นใบรับรองให้กับผู้ที่สอบผ่านได้คะแนนทั้ง 3 วิชาผ่านเกณฑ์ตามที่ ก.พ. กำหนด ส่วนราชการอื่นใดที่รับผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. ก็กลั่นกรองเอาเฉพาะผู้ที่สอบผ่านภาค ก. ก.พ. แล้วเท่านั้นมาสอบภาค ข. และภาค ค. และประมวลผลคะแนน โดยภาค ข. จะต้องผ่านเกณฑ์ตัดผ่าน 60% และภาค ค. ก็ต้องผ่านเกณฑ์ตัดผ่าน 60% ด้วยเช่นกัน แล้วจึงนำผลคะแนนภาค ข. และภาค ค.มารวมกันแล้วจัดลำดับขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบผ่านเพื่อเรียกบรรจุตามลำดับต่อไป แตกต่างกับส่วนราชการที่ไม่รับผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. เนื่องจากเกณฑ์การตัดสินแตกต่างกัน

กรณีส่วนราชการใดที่ไม่รับผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. จะมีเกณฑ์การตัดสินเพื่อจัดลำดับผู้สอบผ่านโดยเก็บคะแนนทุกภาค ทั้งภาค ก. ภาค ข. และภาค ค. โดยทุกภาค ในแต่ละภาคจะต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 60% แล้วจึงจะนำคะแนนทั้งหมดมารวมกันเพื่อจัดลำดับขึ้นบัญชีผู้สอบได้รอเรียกบรรจุตามลำดับ

สำหรับ..การสอบท้องถิ่น 2558 ในที่ประชุมเมื่อวันที่ี 25 ธ.ค. 2557 ได้มีความเห็น 2 แนวทางเกี่ยวกับเรื่อง การจัดสอบภาค ก. ดังนี้

แนวทางที่ 1 รับผลสอบภาค ก. ก.พ. โดยหากผู้สมัครสอบมีใบรับรองผลการสอบภาค ก. ก.พ. สามารถยื่นเพื่อไม่ต้องสอบภาค ก. อีก แต่หากยังไม่มีใบรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ. ทาง กสถ. ก็จะจัดสอบภาค ก. ให้ เพื่อให้มีจำนวนผู้มีสิทธิ์สอบภาค ข. เพิ่มขึ้น แบบชัวร์ๆ

แนวทางที่ 2 จัดสอบเหมือนเดิม คือ ผู้สมัครสอบท้องถิ่นทุกคนต้องสอบภาค ก. ใหม่หมด โดย กสถ. เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบทั้งหมดทั้ง ภาค ก. ภาค ข. และ ภาค ค. ไม่รับผลการสอบผ่านภาค ก. ก.พ.

ซึ่งหากมีการดำเนินการในตามแนวทางที่ 1 คงต้องมีการเปลี่ยนหลักสูตรการสอบ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมสำหรับผู้ที่มีใบรับรองผลการสอบภาค ก. ก.พ. และผู้ที่ไม่มีใบรับรองผลการสอบ ภาค ก. ก.พ. ที่จะต้องสอบภาค ก. ที่ กสถ. จัดสอบแทน แล้วยังจะต้องเปลี่ยนเกณฑ์การตัดสินด้วยเนื่องจากแบบเดิมๆ ตามแนวทางที่ 2 มีการนำเอาคะแนนภาค ก. มาร่วมในการคำนวณเพื่อจัดลำดับขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบผ่านด้วย แต่ ก.พ. ไม่ได้สนใจในเรื่องการเก็บผลคะแนนที่เป็นตัวเลข เก็บเพียงผลผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ตัดผ่าน 60% ในส่วนของวิชาความสามารถทั่วไป และวิชาภาษาไทย และ 50% สำหรับเกณฑ์ตัดผ่านเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ

ดาวน์โหลดประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่

Comments

comments

ข่าวงานราชการเปิดสอบ 2567-2569
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.