Categories
รายงานพิเศษ

ปีหน้างดรับสมัคร บัดนี้ –  นักเรียนเตรียมทหาร เพื่อปรับหลักสูตร

ปีหน้างดรับสมัคร

“ปีหน้างดรับสมัคร”

ลิงค์: https://iqepi.com/31390/ หรือ
เรื่อง: นักเรียนเตรียมทหาร เพื่อปรับหลักสูตร
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**


เพจของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งได้มีการแจ้งข่าวไว้ดังนี้…

“ข่าวค่อนข้างแน่ชัดจากทางโรงเรียนเตรียมทหารแล้วนะครับว่า ในปีหน้า พ.ศ.2559 จะไม่มีการรับสมัครนักเรียนเตรียมทหาร โดยจะงดรับ 1 ปีเพื่อปรับหลักสูตรกลับไปรับนักเรียนชาย ม.4 เหมือนสมัยก่อนครับ
น้อง ม.3 ปีนี้มีเวลาเตรียมตัวเพิ่มขึ้นอีกปีกว่าๆ ขอให้ตั้งใจนะครับ
ส่วนนักเรียนหญิง ม.6 ยังรับเข้าเรียนนายร้อยตำรวจเหมือนเดิมครับ”…

  Youtube: iqepin LINE it! เพิ่มเพื่อน  

ระเบียบการทั่วไปของผู้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ในปีที่ผ่าน ๆ มา (จากเว็บไซต์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ http://www.rpca.ac.th/)
ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พื้นความรู้และคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ
ผู้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของสำนักงานตำรวจเเห่งชาติต้องมีพื้นฐานความรู้ และคุณสมบัติ ต่อไปนี้
1.สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3) หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า
2.อายุไม่ต่ำกว่า 14 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 17 ปีบริบูรณ์ ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร การนับอายุให้นับตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
3.มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด เเละบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร นายตารวจสัญญาบัตรหรือ นายทหารชั้นประทวน นายตำรวจชั้นประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดเเล้ว มารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
4.มีอวัยวะ รูปร่าง ลักษณะท่าทาง ขนาดของร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นทหารหรือตำรวจ ไม่เป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงตามความในกฎหมาย ว่าด้วยการรับราชการทหารและกฎกระทรวงออกตามความในกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบข้าราชการตำรวจ ตามที่กองบัญชาการทหารสูงสุดกำหนดรายละเอียดไว้ในผนวกท้ายระเบียบ ( รายละเอียดตามผนวก ก )
5.เป็นชายโสด ไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสียทางเพศ หรือติดต่อ ได้เสียกับหญิง ถึงขั้นที่จะถือว่าเป็นผู้มีภรรยา
6.เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดี มีอุดมการณ์ เลื่อมใสในระบอบการปกครองเเบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตริย์เป็นประมุข และมีผู้ปกครองดูเเลความประพฤติ
7.ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
8.ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา และไม่เคยต้องโทษจำคุกตาม คำพิพากษาคดีถึงที่สุด เว้นเเต่ ความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
9.ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างพักราชการ หรือหนีราชการ
10.ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน หรือถูกปลดออกเพราะความผิด หรือถูกไล่ออกจากราชการ
11.ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติด หรือสารเคมีให้โทษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
12.บิดามารดาและผู้ปกครองเป็นผู้มีอาชีพสุจริตอันชอบธรรม หรือมีหลักฐานเชื่อถือได้
13.เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากบิดา มารดา และผู้ปกครองให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
14.ต้องมีผู้ปกครองหรือผู้รับรองซึ่งสามารถรับรองข้อความเเละพันธกรณีตามที่กองบัญชาการทหารสูงสุดกำหนดไว้
15.ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับองค์กรของรัฐบาลหรือเอกชน อันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
16.ไม่เป็นผู้ที่เคยทุจริตในการสมัครหรือในการสอบคัดเลือกมาเเล้ว
17.พื้นความรู้และคุณสมบัติดังกล่าวนี้ แม้ปรากฏว่าเป็นความเท็จภายหลังที่เข้ารับนักเรียนเตรียมทหารเเล้วก็ตามจะต้องออกจากความเป็นนักเรียนเตรียมทหารทันที
ผู้ไม่มีสิทธิสมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
1.ไม่มีคุณสมบัติ และลักษณะครบถ้วนตามที่ระบุข้างต้น
2.ผู้ที่เคยถูกถอนทะเบียนออกจากความเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
ผู้สมัครที่มีสิทธิได้รับคะเเนนเพิ่มพิเศษ
1.บุตรของข้าราชการตำรวจ หรือราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมที่มีเวลารับราชการดังต่อไปนี้ให้ได้รับคะเเนนเพิ่มตามลำดับ
1.1 รับราชการไม่น้อยกว่า 15 ปี หรือได้รับพระราชทานเหรียญจักรมาลา เพิ่มให้ร้อยละ 4 ของคะเเนนเต็ม
1.2 รับราชการไม่น้อยกว่า 10 ปี เพิ่มให้ร้อยละ 3 ของคะเเนนเต็ม
1.3 รับราชการไม่ถึง 10 ปี เพิ่มให้ร้อยละ 2 ของคะเเนนเต็ม
ระยะเวลารับราชการ ให้นับตั้งเเต่วันเข้ารับราชการถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ของปีรับสมัคร
2.บุตรของข้าราชการตำรวจ ทหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานราชการ หรือลูกจ้าง ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการในระหว่างเวลามีการรบ หรือสงคราม หรือมีการปราบจลาจล หรือในระหว่างเวลาที่มีพระบรมราชโองการประกาศกฎอัยการศึก หรือมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือในระหว่างเวลาที่สั่งให้เป็นนักดาเรือดำน้ำ ซึ่งมีสิทธิได้รับเวลาราชการทวีคูณตามกฎหมาย ว่าด้วยบาเหน็จบำนาญข้าราชการ เพิ่มให้ร้อยละ 3 ของคะเเนนเต็ม
บุตรของข้าราชการตำรวจ ทหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานราชการ หรือลูกจ้าง ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับทหาร ระหว่างเวลาที่มีการซ้อมรบหรือการสงคราม หรือมีการปราบจลาจล หรือในระหว่างเวลาที่มีพระบรมราชโองการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือ มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน หรือในระหว่างเวลาที่สั่งให้เป็นนักดำเรือดำน้ำหรือปฏิบัติหน้าที่สำรวจจัดทำหลักเขตเเดนระหว่างประเทศ ซึงมีสิทธิได้รับเวลาราชการทวีคูณตามกฎหมาย ว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการเพิ่มให้ร้อยละ 5 ของคะเเนนเต็ม
พลเรือนหรือบุตรของพลเรือน ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับทหารในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามภายนอกและภายในประเทศ เพิ่มให้ร้อยละ 5 ของคะเเนนเต็ม
3.บุตรของข้าราชการตำรวจ ทหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนกงานราชการ หรือลูกจ้าง
ซึ่งต้องประสบภัยทุพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่ตามปกติ หรือประทุษร้ายเพราะเหตุการกระทำการตามหน้าที่ หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้นซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษตามกฎหมาย ว่าด้วยบำเหน็จบำนาญขข้าราชการ หรือได้รับเงินค่าทำขวัญ ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยคนงาน หรือได้รับบำเหน็จพิเศษ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง เพิ่มร้อยละ 6 ของคะเเนนเต็ม
บุตรของข้าราชการตำรวจ ทหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานราชการ หรือลูกจ้าง ซึ่งประสบอันตรายถึงทพพลภาพในขณะปิบัติราชการในหน้าที่ทางยุทธการ หรือถูกประทุษร้าย เพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ ตามข้อ 4.2 หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้นซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษ ตามกฎหมาย ว่าด้วยการบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือได้รับเงินค่าทำขัวญ ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยคนงานหรือได้รับบำเหน็จพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยบำนาญลูกจ้าง หรือบุตรของผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี หรือเหรียญ หรือเข็มกล้าหาญ เพิ่มร้อยละ 10 ของคะเเนนเต็ม
4.บุตรของข้าราชการตำรวจ ทหาร ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามโจรผู้ร้ายจนถึงแก่ทุพพลภาพหรือถึงเเก่ชีวิต หรือผู้ที่ได้ช่วยเหลือราชการในการปราบปรามโจรผู้ร้ายจนถึงเเก่ทุพพลภาพหรือถึงเเก่ชีวิต ซึ่งได้รับรองจากสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ เพิ่มให้ร้อยละ 10 ของคะเเนนเต็ม
การเพิ่มคะเเนนพิเศษ ตามข้อ 4.1 และ 4.2 ให้เพิ่มคะเเนนหลังจากสอบผ่านภาควิชาการ
การเพิ่มคะเเเนนพิเศษ ตามข้อ 4.3 และ 4.4 ให้เพิ่มคะเเนนพิเศษในภาควิชาการเท่านั้น
กรณีผู้ได้รับสิทธิการเพิ่มคะเเนนพิเศษหลายกรณีให้เพิ่มเฉพาะกรณีที่ได้คะเเนนมากที่สุดเพียงกรณีเดียว
(การพิจารณาให้สิทธิพิเศษตามหลักฐานดังกล่าวข้างต้นปฏิบัติตามประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี )

Comments

comments

ข่าวงานราชการเปิดสอบ 2567-2569
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.