Categories
พนักงานรัฐวิสาหกิจ เหตุการณ์ปัจจุบัน

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้โควิด-19เป็นโรคติดต่อร้ายแรงมีผลบังคับใช้1มี.ค.

ราชกิจจานุเบกษา

"ราชกิจจานุเบกษา "

ลิงค์: https://ehenx.com/6326/ หรือ
เรื่อง: ประกาศให้โควิด-19เป็นโรคติดต่อร้ายแรงมีผลบังคับใช้1มี.ค.


ราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีผลบังคับใช้ 1 มี.ค.

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2563

จึงประกาศรับสมัครบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

โดยที่เป็นการสมควรให้มีการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID)) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเผ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2563

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วัดถีดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (14) ของข้อ 1 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย พ.ศ.2559

"(14) โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID)) มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ ในรายที่มีอาการรุนแรง จะมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิต 

ประกาศ ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 พ.ศ.2563 
อนุมิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

สธ.ย้ำปกปิดข้อมูลจำเป็นต่อการสอบสวนโรค โทษปรับ 2 หมื่น ขณะที่หลังประกาศ โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ทำผิดกฎหมายมาตราอื่นๆ โทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19(COVID-19) ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีการปกปิดประวัติที่จำเป็นในการสอบสวนโรคจะมีความผิดอย่างไร นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า หากประกาศโรคโควิด-19เป็นโรคติดต่ออันตรายมีผลบังคับใช้ จะดำเนินการตามพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งจะมีการกำหนดว่าประชาชน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล หรือผู้ควบคุมสถานประกอบการหรือสถานที่อื่นใด เช่น โรงแรม จะต้องรายงานแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมีผู้ต้องสงสัยหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่ออันตราย โดยจะต้องให้ข้อมูลเป็นจริง หากไม่แจ้งจะมีโทษปรับ 2 หมื่นบาท ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลตามความจริง จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ตรงกับอาการป่วย และสร้างความปลอดภัย ป้องกันบุคคลอื่นไม่ให้ติดโรค

  Youtube: iqepin LINE it! เพิ่มเพื่อน  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ลงนามแล้ว อยู่ระหว่างการรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้หลังจากนั้น 1 วัน ทั้งนี้ เมื่อประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว จะดำเนินการตามพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยจะมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเป็นการฝ่าฝืนในส่วนของมาตรา 40 (2) ซึ่งกำหนดในกรณีที่มีการประกาศให้ท้องที่หรือเมืองท่ามดนอกราชอาณาจักรเป็นเขตติดโรค เจ้าพนักงานมีอำนาจดำเนินการให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะที่เข้ามาในประเทศ โดยจัดให้พาหนะจอดอยู่ ณ สถานที่ที่กำหนดให้จนกว่าเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจะอนุญาตให้ไปได้

นอกจากนี้  มาตรา 34 (1) มีอำนาจนำผู้ที่เป็น/มีเหตุสงสัยว่าเป็นโควิด-19/ผู้สัมผัส มารับการตรวจ การชันสูตร แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต โทษ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

มาตรา 35 กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน สั่งปิดสถานที่ต่างๆ /สั่งห้ามไปในสถานที่ชุมชน สถานศึกษา สถานที่ใด / สั่งหยุดงานชั่วคราว โทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 39 (5) ห้ามเจ้าของ/ผู้ควบคุมพาหนะนำผู้เดินทางไม่ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเข้าาประเทศ โทษ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท 

นายแพทย์โสภณ อธิบายว่า มีคำสำคัญ 3 คำตาม พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 คือ 1.แยกกัก ซึ่งจะเป็นผู้ป่วยที่มีเชื้อแล้วจะต้องนำเข้าแยกกักในห้องแยกโรคความดันเป็นลบ 2.กักกัน เป็นคนที่ยังไม่ป่วยแต่มีโอกาสได้รับเชื้อ จึงจำเป็นต้องให้คนดังกล่าว กักกันอยู่ในพื้นที่เฉพาะ ซึ่งอาจจะเป็นที่บ้านของคนผู้นั้นเองก็ได้ เป็นเวลาครบ 14 วัน ซึ่งจากการดำเนินการเช่นนี้ในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่ผ่านมา มีเพียง 2 % ที่เป็นเสี่ยงสูงแพร่เชื้อ และอีก 98 % เป็นคนปกติ แต่ที่ต้องมีความดำเนินการเพื่อความปลอดภัย

และ3.คุมไว้สังเกตอาการ ซึ่งเป็นผู้สัมผัสที่ไม่ใกล้ชิดผู้ป่วย แต่จะต้องคุมไว้สังเกตอาการจนครบ 14 วัน โดยให้อยู่ที่บ้าน แต่จะต้องมีการติดตามอาการทุกวัน วัดไข้ และเมื่อป่วยให้ไปพบแพทย์ เช่น กรณีปู่ย่าหลาน คนในไฟลท์บิน คนที่จัดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือคนที่นั่ง2 แถวหน้า-หลังของผู้ป่วย ส่วนคนร่วมไฟลท์คนอื่น ถือเป็นเสี่ยงต่ำ แต่ต้องคุมไว้สังเกตอาการ

 

คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง

ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีผลบังคับใช้ 1 มี.ค.

 

ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีผลบังคับใช้ 1 มี.ค.

 

Comments

comments

ข่าวงานราชการเปิดสอบ 2567-2569
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.