“สำนักข่าวกรองแห่งชาติ“
ลิงค์: https://ehenx.com/3195/ หรือ
ตำแหน่ง: นักการข่าว(ด้านภาษากระเหรี่ยง),นักการข่าว(ด้านภาษาอินโดนีเซีย),นักการข่าว(ด้านภาษามลายู),นักการข่าว(ด้านภาษาเวียดนาม),นักการข่าว(ด้านภาษาพม่า),นักการข่าว(ด้านภาษาเขมร),นักการข่าว(ด้านภาษาอาหรับ),นักการข่าว(ด้านภาษารัสเซีย),นักการข่าว(ด้านภาษาจีน)
ระดับการศึกษา: ปริญญาตรีทุกสาขา,ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน: 15,000-16,500
อัตราว่าง: 23
ปฏิบัติงานที่: กรุงเทพมหานคร
เปิดรับสมัครตั้งแต่: 1 ส.ค. – 30 ส.ค. 2562
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
—
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เปิดรับสมัครสอบ
เรื่อง
จึงประกาศรับสมัครบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :1 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :1 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :3 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :1 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :5 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :2 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :4 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :2 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน :15,000 – 16,500 บาท
ประเภท :วิชาการ ระดับปฏิบัติการ
จำนวนตำแหน่งว่าง :4 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา :ปริญญาตรี
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา (ไม่ต้องผ่านภาค ก)
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านการข่าวภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
(1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการศึกษาหลักการและวิธีการด้านการรวบรวมข่าว การจัดทำรายงานข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน เพื่อติดตาม สืบสวน ศึกษาความเคลื่อนไหว สถานการณ์ พฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายด้านการข่าว
(2) ร่วมศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์ และพฤติการณ์ของบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร และอื่น ๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางด้าน การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา เพื่อประมวลรายละเอียดข้อเท็จจริงในการทำรายงานข่าวกรอง กำหนดแผนและปฏิบัติการรวบรวมข่าว รวมทั้งต่อต้านข่าวกรอง (การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การบ่อนทำลาย) และการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนร่วมศึกษา วิเคราะห์ วิจัยข่าวกรองที่มีความยุ่งยาก หรือมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
(1) ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
(2) ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น จัดทำสถิติ รายงาน ฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าว เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และประโยชน์ในการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ หรือมาตรการต่าง ๆ
จากลักษณะงานที่ปฏิบัติข้างต้นผู้สมัครจึงควร
– สามารถปฏิบัติงานในต่างจังหวัดและในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย หรือทุรกันดารได้ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
– มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการ มีความอดทน สามารถปฏิบัติงานในภาวะที่กดดัน
– มีคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่แสดงถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
วิชาที่สอบ
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษากระเหรี่ยง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษากระเหรี่ยง โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การทหาร ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษาอินโดนีเซีย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาอินโดนีเซีย โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษามลายู (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษามลายู โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
3. วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษาเวียดนาม (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาเวียดนาม โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษาพม่า (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาพม่า โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษาเขมร (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาเขมร โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษาอาหรับ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาอาหรับ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษารัสเซีย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษารัสเซีย โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
1. การสอบคัดเลือกเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1.1 วิชาภาษาจีน (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถและทักษะในการใช้ภาษาจีน โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
1.2 วิชาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน (คะแนนเต็ม 70 คะแนน)
ทดสอบความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนผลประโยชน์ ความมั่นคง หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย ความรู้เรื่องการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
1.3 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยการให้สรุปความ หรือตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคำหรือกลุ่มคำ ประโยค หรือข้อความสั้น ๆ หรือเรียงความ
2. การคัดเลือกโดยวิธีการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
เป็นการคัดเลือกโดยการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง โดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่น เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขัน เพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552
วิธีการสมัครงานข้าราชการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ :สมัครทางอินเทอร์เน็ต
ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 30 ส.ค. 2562 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ดาวน์โหลดไฟล์ “สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
แผนที่ | ประกาศ 1 | เว็บรับสมัคร |