“สมาคมธนาคารไทย”
ลิงค์: https://iqepi.com/34472/ หรือ
เรื่อง: 16 พ.ค. 59 เปลี่ยนบัตร ATM เป็น ชิปการ์ด
—
สมาคมธนาคารไทย
“นับถอยหลัง อีก 11 วัน ระบบการเงินของไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยบัตรเดบิต และเอทีเอ็ม ในระบบแถบแม่เหล็กที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะถูกเปลี่ยนเป็นแบบชิปการ์ด โดยธนาคารพาณิชย์จะไม่มีการออกบัตรแบบแถบแม่เหล็กอีก และบัตรนี้จะสูญไปภายในปี 2562
เพื่อป้องกันการโจรกรรม หรือสกิมมิ่งข้อมูล ยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยมีบัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิต รวมแล้วประมาณ 70 ล้านใบ กว่า 30 ล้านคนถือบัตร คนไทยสามารถเข้าถึงระบบธนาคารประมาณ 80% ของผู้มีรายได้บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดิม ที่เป็นบัตรแถบแม่เหล็ก เป็นเทคโนโลยีที่มีมาร่วม 30 กว่าปีแล้ว
ในเมืองไทยใช้เมื่อปี ค.ศ.1983 ถือว่าใช้มานานมากแล้ว การที่จะปลอมแปลง คัดลอกแถบแม่เหล็ก หรือโจรกรรมข้อมูล (สกิมมิ่ง) ทำได้ง่าย พวกคนร้ายเข้าใจถึงระบบแม่เหล็กเป็นอย่างดี สามารถดูดข้อมูลแล้วนำไปทำบัตรใหม่ขึ้นมาเพื่อนำไปถอนเงินของผู้เป็นเจ้าของบัตรตัวจริงได้ง่ายสำหรับ ชิปการ์ด ซึ่งเป็นของใหม่ มีความปลอดภัยมากกว่าบัตรแบบเดิม การจะเข้าถึงข้อมูลต้องมีรหัส หรือกุญแจสำหรับเปิด การคัดลอกข้อมูลคนร้ายจะทำได้ยากขึ้นสำหรับตู้เอทีเอ็ม ก็ต้องมีการปรับปรุงให้รองรับบัตรชิปการ์ด ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ปรับปรุงตู้เอทีเอ็มไปแล้วกว่า 80% ส่วนเครื่องเอทีเอ็มรุ่นเก่าที่ปรับปรุงไม่ได้ก็จะมีการเปลี่ยนตู้ใหม่
คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้ตู้เอทีเอ็มทั้งประเทศจะรองรับชิปการ์ดได้ 100% ตู้เอทีเอ็มที่ปรับปรุงให้รองรับบัตรชิปการ์ดได้นั้น ยังอ่านข้อมูลบัตรเอทีเอ็มแบบเก่าได้ เพราะยังมีความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ที่ยังใช้บัตรเอทีเอ็มแบบเก่า ที่ยังไม่ครบกำหนดที่จะเปลี่ยน ดังนั้น ประชาชนยังไม่จำเป็นต้องรีบเปลี่ยน แต่หากประชาชนต้องการความปลอดภัยให้สูงขึ้นก็ไปติดต่อขอเปลี่ยนได้ที่ธนาคารเจ้าของบัตรสำหรับค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนบัตรนั้น โดยปกติแล้ว บัตรเดบิต จะเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปี การที่ครบรอบค่าใช้จ่ายก็ยังเหมือนเดิมหากเปลี่ยนบัตรก่อนครบกำหนด ธนาคารพาณิชย์บางแห่งอาจจะมีนโยบายไม่เหมือนกัน บางแห่งอาจจะบอกว่า ยังเหลืออีก 2 ปี ก็อนุญาตให้เปลี่ยนเลย หรือบางแห่งอาจจะบอกว่า ขอให้ใช้ไปจนครบกำหนด ค่อยมาเปลี่ยนอย่างไรก็ตาม ทางธนาคารไม่มีนโยบายเก็บค่าใช้จ่ายให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 16 พฤษภาคม บัตรที่ออกใหม่จะเป็นชิปการ์ดทั้งหมด บางธนาคารอาจจะมีทั้งชิปการ์ด และแถบแม่เหล็ก เพราะหากเจ้าของบัตรเดินทางไปต่างประเทศ จะได้ถอนเงินได้ เนื่องจากบางประเทศก็ยังอยู่ระหว่างดำเนินการเหมือนกับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2020 หรือ พ.ศ.2563 บัตรแถบแม่เหล็กจะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะตู้เอทีเอ็ม เครื่องรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายจะรับแต่ชิปการ์ด ดังนั้น นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป ประชาชนทยอยไปเปลี่ยนกับธนาคารเจ้าของบัตรได้ทั้งนี้ การเปลี่ยนบัตรเป็นชิปการ์ด เป็นการพัฒนาประเทศในด้านนี้ ไม่ใช่เพื่อให้ธนาคารมีรายได้เพิ่มจากค่าเปลี่ยนบัตร”
แหล่งที่มา: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378500597/
